บทความ

  • News

เนื้อหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ 02

  • บทความ
  • 03/03/2025 01:27

โดยใช้หลักการที่ว่า

 “YOU ARE WHAT YOU EAT” สุขภาพเราจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับอาหารที่เราทานเข้าไป

พฤติกรรมการกินเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงโรคต่างๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของร่างกายไม่สามารถโกหกได้ หลายคนพยายามที่จะหลอกตัวเองว่าสุขภาพดี แต่ร่างกายเขาฟ้องว่าเขาเริ่มมีอาการบงชี้ของโรค หลายๆโรคมักจะเชื่อมโยงกับการทานอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกาย ในยุคปัจจุบันมีการแข่งขันในตลาดสูง จึงมีการใช้สารปนเปื้อน สารเคมีช่วย เช่น ฉีดยาฆ่าแมลงในพืชผัก ผลไม้ ฉีดสารเร่งโตในไก่ใช้ยาฟอร์มาลีน ในปลาเพื่อให้เน่าช้า ใส่พวกผงชูรส สารกันบูด อาหารแปรรูปจำนวนมากเน้นสีสันความอร่อย การใช้ผงชูรส นมข้น น้ำตาลในปริมาณมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อทานเข้าไปในร่างกายแล้วจะทำให้เกิดการสะสมจนได้รับอันตรายในที่สุด ดังนั้นการรักษาแบบโภชนบำบัดต้องงดอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกาย



 

แนวทางในการป้องกันและรักษา : จากการทำงานของระบบภายในร่างกายและการทำงานของสมุนไพร LIMGAR โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้

 

1 ) ระบบย่อยอาหาร โรคที่มาจากระบบย่อยอาหารเริ่มต้นจากอาหารการกินที่ทานเข้าไปส่งไปยังกะเพาะและลำไส้ เพื่อทำหน้าที่ในการย่อย ซึ่งลำไส้มีหน้าที่ย่อยอาหารด้วยเช่นกัน  ระบบย่อยอาหารเมื่อทานอาหารที่เป็นธรรมชาติก็จะทำหน้าที่ในการย่อยได้ดี แต่เมื่อเราทานอาหารที่มีสารเคมีจะทำให้ระบบย่อยอาหารย่อยยาก ยิ่งอาหารแปรรูปเป็นอาหารที่ถูกปรับแต่งเพื่อความอร่อยและให้มีสีสัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสารอาหารที่อันตรายที่เข้าไปทำลายระบบภายในร่างกาย จึงมีปัญหากับระบบย่อยอาหารที่ไม่สามารถย่อยอาหาร โปรตีน คาร์โบไฮเดรตได้อย่างปกติ และร่างกายได้หลั่งฮอร์โมนของความเป็นกรดออกมาเพื่อทำหน้าที่ย่อย เมื่อมีความเป็นกรดในปริมาณมาก ทำให้การทำงานของระบบย่อยมีปัญหา อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆขึ้นมา เมื่อระบบย่อยไม่สามารถย่อยได้ตามปกติก็จะเกิดการสะสมภายในกระเพาะ จนเกิดความเน่าเสียที่ติดอยู่ภายในร่างกาย และพฤติกรรมการกินอาหารซ้ำๆอย่างต่อเนื่อง โดยที่ของเก่ายังไม่ทันขับถ่ายออกมา ของใหม่ก็ทับถมเพิ่มขึ้น จึงเกิดการสะสมในกะเพาะทำให้ความเป็นกรดในร่างกายยิ่งเพิ่มขึ้น ความเป็นกรดเหล่านั้นจะกลายเป็นก๊าซและมีกลิ่น จะส่งผลให้หูรูดผนังที่กั้นระหว่างกระเพาะกับลำไส้เกิดการอักเสบและเสีย ทำให้กรดในกระเพาะไหลย้อนกลับไป ซึ่งเป็นสาเหตุของการเป็น ”กรดไหลย้อน” ทำให้แสบท้อง แสบหน้าอก เปรี้ยวขมคอ ปวดตึง ขอ บ่า ไหล เรอเปรี้ยว เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่คนที่เป็นโกรดไหลย้อน จะหายาเพื่อทานในการรักษา ซึ่งเป็นยาที่เป็นสารเคมี แต่ยาพวกนี้ไม่ได้ทำให้หายขาด เป็นเพียงการบรรเทาอาการเท่านั้น เป็นยาที่ไม่ได้ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น เป็นยาที่ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุของการเกิดโรค

ลำไส้เปรียบสเหมือนสมองส่วนที่ 2 ของร่างกาย  เพราะเส้นประสาทบางส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกับลำไส้แม้กระทั่งฮอร์โมนแห่งความสุข 90% หลั่งที่ลำไส้ คนที่เป็นกระเพาะและกรดไหลย้อนเมื่อร่างกายต้องการสารอาหารก็จะทำการดูดซึมเพื่อไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆตั้งแต่เท้าจนถึงเส้นผม สารอาหารที่เน่า เป็นพิษมีสภาพความเป็นกรดสูง สิ่งเหล่านั้นร่างกายจะดูดซึมนำไปใช้และส่งผลให้เกิดการอักเสบตามร่างกาย เพราะสารอาหารที่เป็นกรดไปทำลายเส้นประสาทต่างๆ เมื่อความเป็นกรดส่งผ่านเส้นประสาทต่างๆก็จะมีอาการ ตึงคอ บ่า ไหล บางคนเป็นไมเกรน หายใจไม่ค่อยสะดวก ผิวพรรณเริ่มมปัญหา เพราะคนที่เป็นกรดไหลย้อนอาหารที่เข้าไปในร่างกาย 100%  สามารถใช้ได้เพียง 25%  อีก 75% ร่างกายไม่สามารถดูดซึมเพื่อนำไปใช้งานได้ จึงถูกแปลงเป็นสารอาหารที่เป็นพิษต่อร่างกายและสะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ขาดสารอาหาร จนร่ายกายผอม เพราะไม่สามารถนำสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไปบำรุงร่างกายได้อย่างปกติ ต่อให้ทานอาหารได้เยอะจนถึงไม่อยากกิน ทานอะไรไม่ได้ สาเหตุเหล่านี้เกิดจากร่างกายเต็มไปด้วยสารพิษ และไม่ได้หลั่งกรดให้เกิดความหิว บางคนไม่สามารถรับรสชาติของอาหารได้แบบปกติ  รับแค่รสชาติเผ็ดอย่างเดียว รสชาติเข็ม เปรี้ยว หวาน ไม่สามารถรับได้เลย เพราะเส้นประสาทของการรับรสถูกทำลายด้วยกรดและสารพิษ

 

หมวดหมู่